CH:1 เป็นห่วงvsอย่างอนนะ
“กินข้าวยัง?”
[ยัง เพิ่งซ้อมเสร็จ]
“ดูแลตัวเองหน่อยดิวะ”
[กูรู้น่า~]ปลายสายบ่นเสียงเอือมๆ- - วันๆโทรมาหากันทีไรก็เอาแต่ถามคำถามว่า กินข้าวยัง? ประโยคเดิมซ้ำๆจนคนปลายสายรู้สึกเบื่อหน่าย จะห่วงอะไรกันนักหนาว่ะ= =*
“อย่านอนดึกล่ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไม่มีแรงแข่ง”เจ้าของประโยคบอกด้วยความเป็นห่วงอยู่ห่างกันขนาดนี้ไม่ห่วงกันก็บ้า>o< หวงด้วยนะก็อีกคนใช่ว่าจะไม่เนื้อหอม- - ถึงแม้จะรู้นะว่าอีกคนไปทำชื่อเสียงให้โรงเรียน แต่ทำไมต้องเป็นเขาด้วยล่ะที่รู้สึกเหงา. . .
[ต้น! กูโตแล้วนะ กูรู้ว่าต้องทำอะไร แค่นี้นะ ตี๊ด. . .ตี๊ด. . .]
O_O!
เหี้ยยยยยย แม่งตัดสายกู!ผมทึ้งผมตัวเองอย่างหัวเสีย อะไรว่ะ?!ผมก็แค่อยากให้มันรู้ว่าผมเป็นห่วง เออ! ดี! งั้นกูจะไม่โทรไปหามึงอีกแล้ว อยากทำอะไรทำเลย!! ต้นจะไม่ยุ่ง. . .งอน
สามวันต่อมา. . .
“พี่ต้นๆ ตื่นๆแม่เรียกให้ไปกินข้าว”สองมือเล็กๆของน้องสาวเขย่าที่แขนผมเบาๆ เพื่อเป็นการปลุกผมจากโลกแห่งความฝัน
“อือ~ น้ำหวานพี่ปวดหัวบอกแม่ด้วยว่าพี่ไม่ไปโรงเรียน”ว่าพลางยกผ้าห่มคุมโปงเพื่อหลีกเลี่ยงการปลุกจากเจ้าตัวเล็ก
“ไม่ต้องมาโกหกหนูเลยน๊า~ ตื่นๆ”ความพยายามของเจ้าตัวเล็กยังไม่ลดละ สองขาเล็กกระโดดขึ้นเตียงคนเป็นพี่ มือน้อยๆดึงผ้าห่มออกให้พ้นทาง
“น้ำหวาน!!พี่จะนอน”ผมบ่นอย่างงัวเงีย สายตาจ้องมองไปที่น้องจอมป่วน
“พี่ต้น เมื่อวานพี่ต้นก็หยุดแล้วนะ วันนี้ต้องไปโรงเรียนสิ”
“พี่ปวดหัว ไปๆออกไปได้แล้วพี่จะนอน”มือโบกไล่น้ำหวานดวงตาปรือปิดเตรียมจะหลับ เฮ้อ...จะให้ไปโรงเรียนตอนนี้ก็ไม่มีอารมณ์หรอก ก็อารมณ์ผมตอนนี้น่ะมลายหายไปกลายเป็นความ ‘คิดถึง’อีกคนหมดแล้ว ฮือออออY-Yทีนไม่ยอมรับโทรศัพท์ผมเลยอ่ะ นี่มัน2วันแล้วนะ โทรไปกี่ครั้งก็ได้ยินแต่. . .
‘ขอโทษค่ะ เลขหมายที่ท่านเรียกสายไม่ว่างในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งคะ’ฮือออออออออออออใครก็ได้เอาอิคลอเซ็นเตอร์ไปเก็บที กูอยากคุยกับเมียกูโว้ยTWT
ก๊อก ก๊อก
“น้ำหวานเดี๋ยวพี่ปลุกเอง ออกไปกินข้าวเถอะ”น้ำเสียงคุ้นๆดังลอดผ้าที่ผมหยิบขึ้นมาคุมตัวอีกครั้งดังขึ้น แต่นั้นก็ไม่ได้ทำให้การนอนของผมมีปัญหาเท่าไร
“คะ ชิ!ไอ้พี่ต้นบ้า!!”เจ้าตัวเล็กกระโดดลงจากเตียงและเดินออกจากห้องไป เหลือไว้แต่ไอ้ขี้ดื้อที่นอนไม่ยอมตื่นและเจ้าของเสียงคุ้นๆไว้ในห้องสองคน
“ต้น”
“อือออ~อย่ายุ่งจะนอน”มือหนาปัดไล่มือที่เขย่าไหล่ออก
“ต้น”
“. . .”
“ต้น”
“. . .”
“ไอ้ต้นมึงจะตื่นมั๊ย!!!”แรงถีบจากปลายเท้าของใครบางคน ส่งผมให้ร่างที่นอนอยู่บนเตียงเมื่อครู่ไปกองอยู่ที่พื้น
“ใครวะ!”น้ำเสียงกระชากดังขึ้น ดวงตาคมเบิ้กมองอีกคน
“กูเอง”
“เชี้ย! ทีน O_O!”
“เออ กูเองทำไม แม่งเฮ้ย กูอุส่าห์กลับมาก่อนถึงวันกำหนดเพื่อมาหามึง แต่มึงกลับมาเอาแต่นอนเนี่ยนะ กูกลับล่ะ”ขณะที่ทีนตั้งท่าจะเดินออกจากห้อง ก็มืออ้อมกอดของผมคว้าไว้ได้ทันเสียก่อน
หมับ!
“เดี๋ยวดิ กูขอโทษก็ได้อย่าพึ่งไปนะ”แขนแกร่งโอบกอดเอวบางของอีกคน
“ก็กูปลุกแล้วมึงเอาแต่นอน ช่างเถอะกูจะกลับแล้วปล่อย”
“อย่าพึ่งงอนดิครับ โอเคๆไม่นอนแล้ว”
“งั้นไปอาบน้ำ เจ็ดโมงกว่าแล้วเร็วๆกูให้เวลา5นาที”
“ครับ! รับทราบ”
จุ๊บ
ริมฝีปากหนาประทับเข้ากับแก้มนุ่มๆก่อนจะชิงหนีเข้าห้องน้ำ
“-////////////-ไอ้บ้าต้น”
ณ โรงเรียนของเราหน้าอยู่
-พักกลางวัน-
เสียงจ้อแจดังคับสถานที่ที่ไม่เล็กมากไม่ใหญ่มาก แต่เป็นสถานที่ที่ค่อนข้างสำคัญกับนักเรียนและคุณครูหลายท่านในเวลานี้ โรงอาหารนั้นเอง. . .ไม่อยากจะโม้ว่าโรงอาหารโรงเรียนผมนั้นแสนจะไม่เหมือนใครและวิเศษอีกด้วย อยากรู้ละสิว่าวิเศษยังไง?
ก็วิเศษตรงที่. . .
มีทีนนั่งกินข้าวอยู่ตรงหน้าผมไง ฮิ้วๆๆๆๆ(อ้วกกกกกกกกกก)แต่จะว่ากินได้มั๊ยนะ หรือทานดีไม่ใช่ละแดกดีกว่า ใช่ครับตอนนี้ผมกำลังนั่งมองทีนน้อยของผมที่กำลังก้มหน้าก้มตาแดกข้าวอย่างเอร็ดอร่อย
“ไปแข่ง ครูเลี้ยงไม่ดีเหรอวะ”
“ทำไม?”ทีนตอบทั้งๆที่ไม่ได้เงยหน้า
“ก็ดูมึงกินดิ อย่างกะตายอดตายอยาก”
“เสือก”คำพูดคำจามึงไพเราะเสนาะหูกูดีเนอะ= =
“แล้วนี้ ทำไมไม่รับโทรศัพท์กูตั้ง2วัน”
“ซ้อมอยู่ไม่วาง”ทีนพูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่มันกลับสร้างความขุ่นมัวในใจของผมเล็กน้อย
“แค่รับแล้วคุยกันไม่กี่นาทีเอง”น้อยใจวะไม่ได้คุยกันตั้ง2วันผมเหงาแทบแย่ แต่ดูทีนดิแม่งเหมือนไม่รู้สึกอะไรเลย
“รับแล้วก็คุยกันแต่ประโยคเดิมๆเบื่อ”
“. . .”เบื่อ? ผมถึงกับสตั๊นไป10วิ ผมทำเพราะความเป็นห่วงแต่อีกคนกลับมองว่ามันหน้าเบื่อ เบื่ออะไร? เบื่อประโยคที่ผมพูด? เบื่อที่ผมโทรไป หรือ เบื่อผม?
“อิ่มแล้ว”ทีนบอกพร้อมกับหยิบกระเป๋าพาดบ่า
“อือ”
“เย็นนี้กูมีซ้อม มึง. . .”
“เดี๋ยวกูกลับเองก็ได้”ผมพูดขึ้นก่อนที่ทีนจะได้พูดจบประโยคแล้วเดินหนีขึ้นห้องเรียนโดยไม่ได้ฟังเสียงเรียกของทีนเลยสักนิด
ตลอดคาบเรียนภาคบ่ายสิ่งที่ครูสอนอยู่หน้าห้องไม่ได้ลอยเข้าสมองผมเลยสักนิดในหัวมีแต่คำว่าเบื่อของทีนเต็มไปหมด ผมเริ่มสงสัยแล้วสิว่าที่ผ่านมาทีนเบื่อผมมากี่ครั้งแล้ว ผมเผลอไปทำอะไรให้ทีนรำคาญมากไปรึเปล่านะ แล้วที่คบกันอยู่นี่ ฝืนใจกันรึเปล่า?. . .
“คิดไรอยู่”คนนั่งข้างๆถามขึ้น เปลือกตาเปรือเตรียมจะหลับ
“เปล่า”
“เปล่าอะไรเห็นอยู่ว่าคิด”
“มึงนอนไปเถอะไม่มีไรหรอก”ผมผลักหัวทีนให้ฟุบลงกับโต๊ะอย่างเดิมก่อนจะมองไปเหม่อไปนอกหน้าต่าง บางทีเราอาจเริ่มใจไม่ตรงกันแล้วมั้ง?. . .
*PART'ทีน*
ต้นหายไปไหนว่ะ เผลอหลับไปนิดเดียวเองตื่นมาก็หายไปแล้ว นี่ถ้าเพื่อนคนอื่นไม่ใจดีเดินมาปลุกนะ ผมว่าไอ้พวกเวรประจำวันคงจะกวาดผมรวมไปกองกับขยะในห้องแล้วล่ะ= =''
"เห็นต้นป่ะ?"ผมสะกิดถามเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งในห้อง เธอเงยหน้ามองผมก่อนจะยิ้มๆอย่างมีเลศนัย อะไรว่ะคนยิ่งมึนๆอยู่เดี๋ยวด่าเลย
"ตื่นมาก็ถามหาคุณสามีเลยนะ"
"ฮิ้วๆ^^"ตามด้วยเสียงแซวจากผู้หญิงคนอื่นๆในห้อง อิพวกนี้มันว่างมากรึไงนะ -/////////-
"ตอบคำถามกู กิ๊กเห็นต้นมั๊ย?"ผมตีหน้านิ่งใส่มัน กิ๊กหญิงสาวร่างท้วมหน้าบึ้งก่อนจะตอบส่งๆ
"ไม่เห็น ไม่ได้ตัวติดกันเชิญมึงไปตามหาเอาเองเถอะ"บอกแค่ก็จบให้ผมเสียเวลาคุยอยู่ด้วยตั้งนาน แล้วนี่ไอ้ตัวปัญหามันไปไหนของมันนะ งอนอะไรผมรึเปล่าเนี่ย แล้วผมไปทำอะไรให้งอนล่ะ? เฮ้อ..........
.
.
.
.
.
.
.
.
[ตี๊ด. . .ติ๊ด. . .ขอโทษคะหมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามรถติดต่อได้ในขณะนี้กรุณา. . .]
ปิดเครื่องเฉยเลย แล้วคราวนี้ผมจะกลับบ้านกับใครล่ะวันนี้ยิ่งไม่ได้เอารถมาด้วย อุส่าห์จะขอให้มันรอ แต่ไม่เห็นจะมีวีแวดสิ่งมีชีวิตที่ชื่อต้นอยู่ในโรงเรียนสักคนสงสัยหนีกลับไปแล้วมั้ง ผมว่านะคนที่ควรจะงอนคือผมมากกว่านะตอนนี้- -*
“ทีน! ไม่ไปซ้อมแหรอวะ คนอื่นเขารอมึงอยู่นะเว้ย”เพื่อนคนหนึ่งในธีมบาสโรงเรียนถามขึ้น เอาจริงๆนะอารมณ์ที่จะซ้อมไม่มีหรอก มัวแต่กังวลอยู่เนี่ยว่าไอ้ต้นมันเป็นอะไร จู่ๆก็นั่งเหม่อ ถามคำตอบคำ เกลือนแดกปากมึงรึไง!
“วันนี้กูปวดขาวะ ฝากบอกครูด้วยนะ บาย”ผมโบกมือลาเพื่อนคนนั้นก่อนจะลองกดเบอร์โทรหาไอ้ต้นอีกทีแต่ผลก็เป็นแบบเดิมเฮ้ออออออออออออออออ
-บ้าน-
“แม่ทีนปวดหัวอ่ะโทรหาต้นให้หน่อย”สาบานได้ว่าตั้งแต่กลับบ้านมาเบอร์เดียวที่ผมโทรออกคือ ‘ไอ้เชี่ยต้น’ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะเมมชื่อมันอย่างนี้หรอก แต่ด้วยความหมั้นไส้เลยเปลี่ยนชื่อที่เมมแม่ง
“ปวดหัวแล้วทำไมต้องโทรหาต้นล่ะ?”
“อยากเจอมัน แล้วก็บอกมันด้วยว่าถ้าไม่รีบมาตอนนี้มันตาย!!”คนเป็นแม่ถึงกับงงงวยในพฤติกรรมของลูกชายตัวเอง แต่ก็ไม่ได้ทักท้วงอะไร เพราะปกติไอ้ลูกคนนี้ก็ไม่ค่อยปกติอยู่แล้ว= =
*PART'ต้น*
[ต้น ทีนปวดหัวมาดูมันให้แม่หน่อย]
“ทีนไม่สบายเหรอครับ”
[อือ เห็นบ่นว่าปวดหัวแล้วก็อยากเจอต้น]
“อ้อ ครับๆเดี๋ยวผมออกไป”
หลังจากที่ผมวางสายจากแม่ทีนไป ผมก็ยันตัวลุกขึ้นนั่งเกาหัวแกรกๆ มันไปทำอะไรมาวะถึงปวดหัวตอนกลางวันยังเห็นดีอยู่เลยๆ ไม่ใช่โดนลูกบาสกระแทกใส่หัวแล้วความจำเสื่อมหรอกนะ(<<เวอร์ไป= =)แต่จะเพราะอะไรก็ช่างเถอะผมคงต้องรีบไปหามันแล้ว ทีนี้รู้เหตุผลที่มันต้องคอยห่วงมันรึยังล่ะ ฮึ๊ย!สองเท้ารีบวิ่งไปหยิบกุญแจรถแล้วตะโกนบอกแม่คืนจะไปนอนค้างบ้านเพื่อนนะไม่รอได้รับคำอนุญาติผมก็แปลงร่างเป็นเด็กแว๊นไปบ้านไอ้ทีนทันที
.
.
.
.
“แม่มึงบอกว่ามึงปวดหัว”
“อือ”
“บอกว่าปวดมาก”
“อือ”
คือแบบ. . .แม่มึงว่ามึงปวดหัวมาก แต่ภาพที่กูเห็นมันไม่ใช่อ่ะกิ๊ฟ ปวดหัวบ้านมึงนั่งตีดอทเหรอ สึด!
“งั้นกูว่ามึงสบายดีแล้วล่ะ กูไปนะ”ผมทำท่าจะเดินออกจากห้องแต่ดันมีเสียงงุ้งงิ้งจากอีกคนดังขึ้นก่อน
“อือออ~ต้นกูปวดหัว”ร่างบางลุกขึ้นจากโต๊ะคอมแล้วล้มตัวลงนอนก่อนจะห่มผ้าคลุมั้งตัวจนเกือบมิดหัว ยังดีที่เหลือใบหน้าให้เห็นอยู่นะ แหมะ!มึงอ่อยกูไง?
“เอาไงแน่ ปวดไม่ปวด”ผมถามพลางส่งสายตาจับผิด
“ปวดมาก”
“งั้นก็นอนซะสิ”
“มึงก็อย่าไปดิ”
“ไม่เอาอ่ะมึงนอนไปเถอะ กูกลับล่ะ”
“ไอ้ต้น!มึงอย่าลีลาถ้าจะมานอนมึงก็มาไม่ต้องพูดมาก”จ๋อยสิครับ ผมก้าวขาเดินไปนอนบนเตียงกับมันด้วยท่าทางน้อบน้อมสุดๆนี่บอกเลยไม่ได้กลัวนะแค่ให้เกียรติเมียตัวเองเฉยๆจริงจริ๊ง
“นอนนะครับนะ”ผมเลื่อนมือไปปิดไฟแล้วดึงผ้าห่มให้มาคลุมตัวผมบ้าง อยากกอดนะแต่กลัวโดนถีบแทนเพราะผมไม่รู้ว่าทีนมันอยู่ในอารมณ์ไหน
10นาทีผ่านไป
ห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืด. . .ไม่มืดก็แปลกดิสึดก็กูปิดไฟนอกจากมืดแล้วยังเงียบอีกต่างหากมีเพียงเสียงลมหายใจเข้าออกของอีกคนเท่านั้นที่บ่งบอกว่าผมไม่ได้อยู่ห้องนี้คนเดียว ทีนหลับยังวะ?
“ต้น”
“เชี้ย!”ผมสะดุ้งน้อยๆเมื่อจู่ๆทีนก็พูดขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“มึงด่ากูทำไม”ไม่ได้เห็นหน้าผมก็พอจะฟังจากเสียงออกแล้วล่ะว่ามันจะหน้าบึ้งขนาดไหน
“กูแค่ตกใจน่ะ”
“มึงเป็นไร?”
“กูก็บอกแล้วไงว่าตกใจ”
“ไม่ใช่เรื่องนั้น”แล้วเรื่องไหนวะ
“เรื่องอะไรล่ะ”
“ทำไมมึงดูแปลกๆ”
“ทำไม?กูมีนมเป็นลูกมะพร้าวรึไง”
“พ่อง!ตอบดีๆกูจริงจังนะ”หยอกแค่นี้ด่าพ่องกูเลยนะ เดี๋ยวจำมาทำโทษให้เป็นลูกสะใภ้จริงๆซะเลย
“ฮะๆเปล่าหรอก”
“ตอแหล”คำพูดมึงนี่ซึ้งกินใจกูดีจังนะ
“ก็เปล่าจริงๆแหละ”
“ถ้าไม่บอกจะไม่คุยด้วยแล้วนะ”
“ทำอย่างกะว่าทุกวันนี้เราคุยด้วยกันเยอะตาย”
“เป็นอะไรก็บอกกันดิหรืออยากเลิก?”ถถถถถถถเดี๋ยวปัดตบด้วยปากเลย กว่ากูจะจีบมึงได้เนี่ยนับว่ากูมีความอดทนต่อมือและตีนมึงสูงมากนะครัช ไม่เลิกครัชกูเสียดาย
“เบื่อกูไม่ใช่เหรอ”
“ใครบอก?”
“มึงบอก มึงบอกว่าเบื่อกูไง”
“กูไม่ได้บอกว่าเบื่อมึงสักหน่อย ที่ว่ากูเบื่อน่ะกูเบื่อประโยคที่มึงพูดต่างหาก ถามอยู่ได้แต่ประโยคเดิมๆ กินข้าวยัง? ทำไรอยู่? ดูแลตัวเองด้วยนะ เป็นใครๆก็เบื่อ”
“ก็กูไม่รู้จะพูดอะไรนี่หว่า”
“บอกรักกูสิ”หืม?มันว่าอะไรนะ ทันทีที่สมองผมจะได้ประมวลคำพูดเมื่อครู่ ผมก็ได้สัมผัสถึงอ้อมกอดอุ่นๆจากคนข้างๆไอ้ทีนย้ายหัวตัวเองจากหมอนขึ้นมานอนทับแขนผมใบหน้าซุกลงที่ซอกคอ แขนข้างหนึ่งยกขึ้นพาดเอวผมไว อั่นแน่!คิดจะทำไรกูปะเนี่ย-.,-
“มึงว่าไรนะ”
“กูอยากให้มึงถามกูบ้างว่า คิดถึงกันมั๊ย? รักกูมั๊ย? แอบมีคนมาจีบรึเปล่า?อะไรอย่างนี้อ่ะ”อ๋ออออ~อยากให้กูหวานใส่ว่างั้น
“งั้นถ้ากูถามตอนนี้มึงจะตอบปะล่ะ?”
“ถามไร”
“ทีนรักต้นปะ?”
“รัก”
“ตอนทีนไปแข่งทีนคิดถึงต้นบ้างมั๊ย?”
“คิดถึงมาก”
“ตอนทีนไปแข่งมีคนมาจีบทีนบ้างป่ะ?”
“มี แต่ทีนไม่สนหรอกก็ทีนมีต้นแล้วนี่^^”อ๊ายยย~กูเขินอ่าาา กรี๊ดดด~อิทีนกูรักตายเลยอย่างนี้ อริอริ
“โอเคเข้าใจ”
“หายงอนแล้วใช่ป่ะ?”
“อืม^^”ไม่งอนล่ะ น่ารักขนาดนี้งอนไม่ลง
“งั้นนอน จุ๊บ ฝันดี”ร่างบางเลื่อนหน้ามาจุ๊บที่แก้มผมเบาๆแล้วล้มตัวลงนอนดังเดิม
ฟินอ่ะ. . .ริมฝีปากหุบยิ้มไม่ลงความสุขล้นออกมาแทบทะลัก ผมกระซับอ้อมกอดอีกคนให้แน่นกว่าเดิม บรรยายกาศรอบข้างเริ่มหนาวขึ้นหากคุณอยากหาที่อุ่นให้ตัวเองผมแนะนำให้กอดคนที่คุณรักไว้นะครับ อุ่นไปถึงหัวใจเลยล่ะ^^. . .
*THE END*
อยากอ่านตอนสองแล้วอ่ะ ><
ตอบลบ